กรณีที่รถมีประกัน
1. ถอดแบตเตอรี่
2. ถ่ายรูปตอนน้ำท่วมสูงสุด
3. ถ่ายรูปรถทุกจุดที่น้ำเข้า
4. ลังจากน้ำลดลง ให้โทรตามประกัน
5. หากประกันมาดูรถ และให้ใส่แบตเตอรี่แล้วขอติดเครื่อง
# ห้ามทำเด็ดขาด เพราะน้ำท่อไอดีจะเข้าห้องเผาไหม้ พอติดเครื่องจะทำให้ก้านสูบคด งอ พังในที่สุด
6. ให้ประกันนำรถเข้าศูนย์บริการ พร้อมทำหนังสือรับผิดชอบ การซ่อมทุกอย่าง ให้กลับมาเหมือนเดิม
(อย่าข้ามขั้นตอน ก็จะใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น)
กรณีที่รถไม่มีประกัน (เครื่องยนต์เบนซิล)
1. ถอดแบตเตอรี่
2. ใช้ลมเป่าตามปลั๊กไฟทุกจุด ถอดกล่อง ECU มาเป่าเบาๆ แล้วตากแดด 20 นาที
3. ถ่ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเฟืองท้าย ออกแล้วเติมใหม่
4. ถอดหัวเทียนออก ติดเครื่อง 3 วินาที ทำแบบนี้ 3 ครั้ง ครั้งแรกน้ำจะพุ่งออกมาจากรูหัวเทียนจำนวนมาก
5. ประกอบทุกจุดกลับคืน ล้างถังน้ำมันเชื้อเพลิง เติมใหม่ แล้วติดเครื่องได้เลย
6. เมื่อเครื่องยนต์ติดแล้ว เข้าเกียร์ไม่ได้ เพราะผ้าครัชติดกับหวีครัช ให้เข้าเกียร์ 2 ติดเครื่อง 8 วินาที ใช้ได้เลย
(อย่าข้ามขั้นตอน ก็จะใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น)
กรณีที่รถไม่มีประกัน (เครื่องยนต์ดีเซล)
1. ถอดแบตเตอรี่
2. ใช้ลมเป่าตามปลั๊กไฟทุกจุด ถอดกล่อง ECU มาเป่าเบาๆ แล้วตากแดด 20 นาที
3. ถ่ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเฟืองท้าย ออกแล้วเติมใหม่
4. ถอดหัวฉีด หรือหัวเผา อย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วติดเครื่อง 4 วินาที ทำ 4 ครั้ง
5. ประกอบทุกจุดกลับคืน ล้างถังน้ำมันเชื้อเพลิง เติมใหม่ แล้วติดเครื่องได้เลย
6. เมื่อเครื่องยนต์ติดแล้ว เข้าเกียร์ไม่ได้ เพราะผ้าครัชติดกับหวีครัช ให้เข้าเกียร์ 2 ติดเครื่อง 8 วินาที ใช้ได้เลย
(อย่าข้ามขั้นตอน ก็จะใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น)
รถจักรยานยนต์
1. ถอดแบตเตอรี่
2. ใช้ลมเป่าตามปลั๊กไฟทุกจุด ถอดกล่อง ECU มาเป่าเบาๆ แล้วตากแดด 20 นาที
3. ถ่ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันเฟืองท้าย ออกแล้วเติมใหม่
4. ถอดหัวเทียนออก ติดเครื่อง 3 วินาที ทำแบบนี้ 3 ครั้ง ครั้งแรกน้ำจะพุ่งออกมาจากรูหัวเทียนจำนวนมาก
5. ประกอบทุกจุดกลับคืน ล้างถังน้ำมันเชื้อเพลิง เติมใหม่ แล้วติดเครื่องได้เลย
(อย่าข้ามขั้นตอน ก็จะใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น)
ที่มา
https://www.facebook.com/share/p/ZrGCsnTrccbavfk6/?mibextid=xfxF2i
By wgt graphic